นักแปลฝึกฟัด The amateur translator
บล็อคนี้เป็นบล็อคฝึกหัด ขัดเกลาด้านการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในขั้นเริ่มต้นนะครับ หากท่านใดมีความเห็น คำแนะนำ ยินดีน้อมรับเสมอครับ
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555
ช่วงนี้ไม่ค่อยอัพ
ตามหัวข้อเลยครับ เนื่องจากว่ามีอะไรหลายๆอย่างต้องทำเลยต้องหยุดไว้ก่อน ไว้มีเนื้อหา จะมาลบบทความนี้แล้วเขียนแต่ แต่ยังไง อีกบล็อคนึงก็ยังอัพเรื่อยๆนะครับ เพราะอัพง่ายกว่ามาก(555) ฝากไว้ด้วยละกัน http://novsercarfun.blogspot.com/ ครับผม
วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555
เริ่มต้นแปล แปลอะไรดี
คำถามยอดฮิต(มั้ง) สำหรับใครหลายคนที่จะเริ่มต้นแปล เริ่มต้นแปล แปลไรดีอ่ะ นิยายหรอ? หนังสือเรียนดีไหม? หรือเอาใบสมัครงานมาแปลดี? หรือข่าวดี? เพลงก็น่าสนนะ
สำหรับผม เท่าที่สังเกตมานะครับ จากหนังสือหลายเล่ม ส่วนมากเขาจะเริ่มต้นแปล(แบบฝึกหัด)จากหนังสือพิมพ์ พวกข่าวอะไรแบบนี้มากกว่าอย่างอื่น คงเป็นเพราะว่ามัน "จบ" ก็ได้มั้ง อย่างนิยาย แปลๆไปเบื่อ ยาวเกินก็เลิกอ่ะ หรือใบสมัครงานนี่ ก็ทางการเกินมั้ง อีกอย่างหายากด้วย เพลงนี่อย่าคิดเลยครับเพราะบางเพลงแปลค่อนข้างยาก(แต่ก็แปลได้นะ ถ้าใครจะลอง แต่การเดินประโยคอะไรอย่างนี้มันจะไม่เหมือนกันเพราะมันลดคำเยอะ)
นอกจากนี้ข่าวยังมีศัพท์ค่อนข้างหลากหลาย หลากหลายนี่หมายถึง ทั้งทางการบ้าง ไม่ทางการบ้าง แสลงก็มี ศัพท์มีวงกว้าง หลากหลายสาขาทั้งภาษาการเมือง เศรฐษกิจ สังคม อาชญกรรม กีฬาอะไรพวกนี้ ซึ่งต่างจากพวกนิยาย ถ้าเรื่องรักก็มีศัพท์แต่รักๆ ศัพท์ในชีวิตประจำวัน คงไม่มีศัพท์อะไรแบบข่าว(หลากหลาย ยกเว้นแต่มันเป็นรักอาชญกรรมมั้ง) ที่สำคัญที่สุดคือ มันปัจจุบัน ศัพท์ที่ใช้ปัจจุบัน มีการใช้กันอย่างแน่นอน ต่างจากนิยายที่บางทีก็เก่า(ปีไหนอ่ะ?) หรืออย่างสมัครงานก็แคบไป นั่นเอง
การหาง่ายก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ การหาบทความง่ายๆมาแปล จะเป็นแรงกระตุ้นมากกว่า ยิ่งเราเรื่องมากว่าต้องอย่างนี้ๆ ก็ไม่ได้แปลพอดี ข่าวนี่แหละ เลือกเอาหาง่าย สั้นๆก็มียาวๆก็มี
วิธีการหาข่าวมาแปล ไม่ยากครับ เลือกเอาเลย สำนักไหน เดี๋ยวนี้มีเว็บในเลือกเยอะแยะ แต่ที่จะแนะนำคือ ถ้าเป็นไปได้ ข่าวไทยที่เป็นอังกฤษก็จะดี เพราะเราก็รู้พื้นฐานอะไรมันมาก่อนแล้วบ้าง(อย่างน้อยถ้าฟังข่าว)
1. Bangkok Post รู้ๆกันอยู่แล้วล่ะครับ คนไทยว่ามีสำนักนี่ ยังไงก็หามาแปลได้ เท่าที่ดูก็ไม่สั้นไม่ยาวอะไรมากมาย(เมื่อเทียบกับความรู้สึกตอนมันอยู่บนแผ่นหนังสือพิมพ์)
หาได้จากลิ้งนี้เลยครับ http://www.bangkokpost.com/ แต่ที่จะแนะนำสำหรับมือใหม่อย่างเราอีกอย่างคือ มันมีหน้าพิเศษสำหรับคนเรียนรู้ใหม่ครับ เขียนมาง่ายกว่าข่าวอีก(บ้าง) อันนี้เอามาแปลก็ไม่เลว ง่ายกว่าเดิม(แต่ไม่ใช่ง่ายเว่อร์ๆ)เลยทีเดียว http://www.bangkokpost.com/learning/
2. The nation อีกเจ้าหนึ่งของไทยครับ ตีคู่มากับข้างบนเลย ส่วนตัวผมไม่ค่อยใช้เว็บนี้เท่าไหร่ เพราะว่าเวลาไปเดินซื้อ หนังสือพิมพ์ทีไรผมก็เจอแต่ของ bangkokpost มากกว่า แต่สำหรับเว็บนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนะถ้าจะเอามาแปล ถือว่าเป็ฯการรับข่าวหลายๆทางดี แปลสำนักเดียว เดี๋ยวจะโดนชักจูงได้นะ :) (เหมือนหนังสือพิมพ์ไทยอื่นๆ 555)
***** มีสิ่งสำคัญสำหรับผู้แปลครับ สำหรับหนังสือพิมพ์สองเจ้านี้ บางวัน คุณ Andrew Biggs ก็จะลงแปลพวกข่าวพาดหัวของ2 สำนักพิมพ์นี้ครับ สามารถติดตามได้ที่ twitter ของเขานะครับ @andrewbiggs
สำหรับผม เท่าที่สังเกตมานะครับ จากหนังสือหลายเล่ม ส่วนมากเขาจะเริ่มต้นแปล(แบบฝึกหัด)จากหนังสือพิมพ์ พวกข่าวอะไรแบบนี้มากกว่าอย่างอื่น คงเป็นเพราะว่ามัน "จบ" ก็ได้มั้ง อย่างนิยาย แปลๆไปเบื่อ ยาวเกินก็เลิกอ่ะ หรือใบสมัครงานนี่ ก็ทางการเกินมั้ง อีกอย่างหายากด้วย เพลงนี่อย่าคิดเลยครับเพราะบางเพลงแปลค่อนข้างยาก(แต่ก็แปลได้นะ ถ้าใครจะลอง แต่การเดินประโยคอะไรอย่างนี้มันจะไม่เหมือนกันเพราะมันลดคำเยอะ)
นอกจากนี้ข่าวยังมีศัพท์ค่อนข้างหลากหลาย หลากหลายนี่หมายถึง ทั้งทางการบ้าง ไม่ทางการบ้าง แสลงก็มี ศัพท์มีวงกว้าง หลากหลายสาขาทั้งภาษาการเมือง เศรฐษกิจ สังคม อาชญกรรม กีฬาอะไรพวกนี้ ซึ่งต่างจากพวกนิยาย ถ้าเรื่องรักก็มีศัพท์แต่รักๆ ศัพท์ในชีวิตประจำวัน คงไม่มีศัพท์อะไรแบบข่าว(หลากหลาย ยกเว้นแต่มันเป็นรักอาชญกรรมมั้ง) ที่สำคัญที่สุดคือ มันปัจจุบัน ศัพท์ที่ใช้ปัจจุบัน มีการใช้กันอย่างแน่นอน ต่างจากนิยายที่บางทีก็เก่า(ปีไหนอ่ะ?) หรืออย่างสมัครงานก็แคบไป นั่นเอง
การหาง่ายก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ การหาบทความง่ายๆมาแปล จะเป็นแรงกระตุ้นมากกว่า ยิ่งเราเรื่องมากว่าต้องอย่างนี้ๆ ก็ไม่ได้แปลพอดี ข่าวนี่แหละ เลือกเอาหาง่าย สั้นๆก็มียาวๆก็มี
วิธีการหาข่าวมาแปล ไม่ยากครับ เลือกเอาเลย สำนักไหน เดี๋ยวนี้มีเว็บในเลือกเยอะแยะ แต่ที่จะแนะนำคือ ถ้าเป็นไปได้ ข่าวไทยที่เป็นอังกฤษก็จะดี เพราะเราก็รู้พื้นฐานอะไรมันมาก่อนแล้วบ้าง(อย่างน้อยถ้าฟังข่าว)
1. Bangkok Post รู้ๆกันอยู่แล้วล่ะครับ คนไทยว่ามีสำนักนี่ ยังไงก็หามาแปลได้ เท่าที่ดูก็ไม่สั้นไม่ยาวอะไรมากมาย(เมื่อเทียบกับความรู้สึกตอนมันอยู่บนแผ่นหนังสือพิมพ์)
หาได้จากลิ้งนี้เลยครับ http://www.bangkokpost.com/ แต่ที่จะแนะนำสำหรับมือใหม่อย่างเราอีกอย่างคือ มันมีหน้าพิเศษสำหรับคนเรียนรู้ใหม่ครับ เขียนมาง่ายกว่าข่าวอีก(บ้าง) อันนี้เอามาแปลก็ไม่เลว ง่ายกว่าเดิม(แต่ไม่ใช่ง่ายเว่อร์ๆ)เลยทีเดียว http://www.bangkokpost.com/learning/
2. The nation อีกเจ้าหนึ่งของไทยครับ ตีคู่มากับข้างบนเลย ส่วนตัวผมไม่ค่อยใช้เว็บนี้เท่าไหร่ เพราะว่าเวลาไปเดินซื้อ หนังสือพิมพ์ทีไรผมก็เจอแต่ของ bangkokpost มากกว่า แต่สำหรับเว็บนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนะถ้าจะเอามาแปล ถือว่าเป็ฯการรับข่าวหลายๆทางดี แปลสำนักเดียว เดี๋ยวจะโดนชักจูงได้นะ :) (เหมือนหนังสือพิมพ์ไทยอื่นๆ 555)
***** มีสิ่งสำคัญสำหรับผู้แปลครับ สำหรับหนังสือพิมพ์สองเจ้านี้ บางวัน คุณ Andrew Biggs ก็จะลงแปลพวกข่าวพาดหัวของ2 สำนักพิมพ์นี้ครับ สามารถติดตามได้ที่ twitter ของเขานะครับ @andrewbiggs
3.VOA NEWS สำหรับเว็บนี้ของอเมริกาครับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช้แปล หากเบื่อกับข่าวไทยเต็มที ส่วนมากจะเป็นข่าวรอบโลก(โดยเฉพาะพวกตะวันออกกลางที่มีข่าวเยอะๆอ่ะ) ดังนั้นเวลาแปลก็ควรมีพื้นฐานนิดนึง(ไม่มีก็ได้ครับ แต่งงอ่ะ) สามารถหาได้ตามนี่เลยครับ http://www.voanews.com/english/news/
สำหรับเว็บนี่่ ก็มีเหมือนข้อแรกเช่นกันครับ มีการทำอังกฤษออกมาให้ง่ายเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราสามารถเอาบทความนั้นมาแปลได้ครับ (ง่ายกว่าข่าวปกติอีก) สามารถหาได้ที่นี่ครับ http://www.voanews.com/learningenglish/home/
4.BBC จะข่าวสำนักนี้ได้อย่างไรล่ะเนอะ เอาเป็นว่ารู้ๆกันอยู่แล้วไม่ต้องอะไรให้มาก http://www.bbc.co.uk ของอังกฤษเค้าน่ะ แต่สิ่งที่จะแนะนำมากกว่าคือ มันก็มีเรียนภาษาอังกฤษเช่นเดียวกันนั่นแหละ ง่ายกว่าข่าวปกติ เหมาะมือใหม่แปลจะตาย ที่นี่เลย http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
5. CNN ขาดได้ไงล่ะ เจ้านี้ สำหรับคนอยากรู้เท่านั้น สำหรับคนขอบาย เพราะพวกข้างบนผมมีพื้นฐานมากกว่า แต่ใครอยากลองก็ http://edition.cnn.com/ ตามนี้เลยครับ หลากหลายให้อ่านเช่นกัน ข่าวรอบโลกดีนะ
สำหรับสำนักข่าวมีมากครับ แต่ว่าแนะนำแค่นี้ก่อนเดี๋ยวเลือกไม่ถูก แค่นี้ยังจะแย่ แบบว่าขี้เกียจแปล แต่ยังไงก็ตามจะต้องพยายามสู้ๆ ให้ได้ เรายังเป็นมือใหม่ ต้องฝึกเยอะๆ สู้ๆครับผม^^
วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555
แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการแปล/ ฝึกแปล
จะฝึกแปลไปเลยก็ได้ครับ สำหรับบางคน แต่สำหรับใครหลายคนจำเป็นต้องมีการแนะนำหรือเรียนรู้แบบมีผู้สอน(แน่นอนผมเองก็ด้วย) หรือเป็นการอ่านเพื่อการพัฒนาตัวเองไปด้วย ก็ยังได้ครับ
สำหรับเล่มนี้จะไม่มีลูกศรโยงขยายอะไรมาให้อีกแล้วครับต้องดูเอง แต่จะเน้นในส่วนข้อปฏิบัติที่ว่า ควรจำตรงไหน (เช่น ให้ความสำคัญกับประธาน) ประโยคแบบนี้จะสามารถแปลเป็นไทยด้วยคำอะไร(บ้าง เป็นแค่รูปแบบ) มีการพูดถึงการแปลมากไปกว่าการแปลตามตัวอักษรแบบสองเล่มแรก เช่นพูดถึง collocation เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการพูดถึงข้อผิดพลาดต่างๆในการแปลอีกด้วย น่าสนใจมากครับ
ผมมีหนังสือมาแนะนำกัน หนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือที่เน้นมุ่งสอนการฝึกแปลจริง ไม่ได้เกี่ยวกับทฤษฎีมากนะครับ อย่างไรก็ตามอาจมีหนังสือมากกว่านี้เยอะ ที่ผมจะนำเสนอเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หากใครมีอะไรแนะนำก็แนะนำได้ครับ แบ่งปันกัน ^^
1. เล่มแรก ENGLISH TRANSLATION การแปลภาษาอังกฤษด้วยเทคนิคง่ายๆ ผู้แต่ง: ผศ.ดร.นเรศ สุรสิทธิ์
สำหรับหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่แนะนำวิธีการแปลอย่างง่ายๆ ผู้ฝึกหัดใหม่สามารถอ่านได้ ง่ายๆครับ วิธีการเดินประโยค และเน้นไวยากรณ์ส่วนสำคัญที่บางครั้งเราละเลยไปด้วย นับว่าเป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มหนึ่ง ผลงานของ ผศ.ดร. นเรศ สุรสิทธิ์ มีหลายเล่มมากๆครับ อ่านง่ายทุกๆเล่มเลย เหมาะที่สุดที่จะเอามาอ่านเลยทีเดียว
2 เล่มที่สอง Practical English Translation การแปลภาษาอังกฤษเชิงปฏิบัติ ผู้แต่ง: สิริบุปผา อุทารธาดา
สำหรับหนังสือเล่มนี้ นับว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกเล่มหนึ่ง เนื่องจากใช้คำอธิบายง่ายๆ มีหลักไวยากรณ์และส่วนสำคัญแนะนำตลอดเวลา เหมาะสำหรับผู้แปลฝึกหัดเช่นกันกับเล่มแรกครับ จะมีการบอกว่าส่วนไหนขยายอะไรส่วนไหนพอสมควร โดยจะเน้นในเรื่องนั้นๆ ซึ่งต่างจากเล่มบนที่จะมีบอกมาตลอดเลยครับ นอกจากนี้ท้ายเล่มยังมีแบบฝึกหัดมาให้อีกด้วย
3. เล่มสุดท้าย แปลได้แปลดี แต่งโดย สุพรรณี ปิ่นมณี
การแปลคือจุดมุ่งหมายที่สำคัญ มีทฤษฎีความรู้เป็นพื้นฐานบ้างก็จะช่วยได้ดีมากยิ่งขึ้นครับผม หากใครมีความเห็นยังไงก็สามารถแนะนำมาได้ครับผม^^
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555
ว่ากันเรื่องเป้าหมายและแรงบันดาลใจ
เป้าหมายและแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญมากครับ เป็นสิ่งที่ผลักดัน และกระดุ้นให้เราสามารถไปถึงฝั่งฝันได้
สำหรับผม ผมอยากแปลได้ระดับดี-ดีมากๆ เช่น คุณสุมาลี และท่านอื่นๆ (รู้จักคนเดียวในหนังสือ) เนื่องจากผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ส่วนมากจะเห็นอาจารย์ท่านอื่นๆ แปลซะมากกว่า
นอกจากการแปลฝึกๆเป็นงานอดิเรกแล้ว ในอนคาตมันต้องเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แน่นอน เพราะฉะนั้นการดูหนทางก็เป็นสิ่งสำคัญ^^ ผมจึงได้หาเว็บอ่านๆดู ปรากฏว่ามีเว็บนึง แนะนำได้น่าสนใจมาก จึงอยากนำมาเสนอๆ ในกับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เผื่ออยากเป็นนักแปลเหมือนกัน จะได้รู้ไว้^^
สู้ๆครับ
สำหรับผม ผมอยากแปลได้ระดับดี-ดีมากๆ เช่น คุณสุมาลี และท่านอื่นๆ (รู้จักคนเดียวในหนังสือ) เนื่องจากผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ส่วนมากจะเห็นอาจารย์ท่านอื่นๆ แปลซะมากกว่า
นอกจากการแปลฝึกๆเป็นงานอดิเรกแล้ว ในอนคาตมันต้องเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างรายได้ให้แน่นอน เพราะฉะนั้นการดูหนทางก็เป็นสิ่งสำคัญ^^ ผมจึงได้หาเว็บอ่านๆดู ปรากฏว่ามีเว็บนึง แนะนำได้น่าสนใจมาก จึงอยากนำมาเสนอๆ ในกับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เผื่ออยากเป็นนักแปลเหมือนกัน จะได้รู้ไว้^^
สู้ๆครับ
ก่อนแปลต้องมีพื้นฐานอังกฤษก่อนจริงไหม
ก่อนที่ผมจะหัดแปล มันก็ต้องมีพื้นฐานกันมาก่อน พื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษเรื่องไวยากรณ์เป็นสิ่งสำคัญ(ในความเห็นของผมนะ) ก่อนหน้าที่ผมจะได้มาฝึกแปลนี่ผมก็ได้ศึกษาภาษาอังกฤษมาพอสมควร หากเพื่อนๆคนใดอยากเรียนภาษาอังกฤษก่อน ผมก็แนะนำบล็อคของคุณพิพัฒน์เลย ครับ บล็อคนี้ได้รวบรวมอะไรมากมายให้อ่าน ผมว่างๆก็เข้าไปศึกษาเหมือนกัน ผมเห็นว่ามีประโยชน์มากๆเลย เลยขอมาแนะนำในที่นี้ครับผม
แนะนำกันก่อน
สวัสดีครับผม ผมชื่อเล็๋ก ครับ กำลังหัดแปลภาษาอังกฤษ เป็น ภาษาไทยก่อน ในอันดับแรก ส่วนแปลไทยเป็นอังกฤษนั้น ยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล
ในส่วนเป้าหมายของผมที่จะทำนั้นคือการ แนะเอาข้อความภาษาอังกฤษมาแปลเป็นไทยลง พยายามหาทฤษฎีหรือความรู้ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแปล มาลงไว้ อนึ่งก็เพื่อเป็นความรู้ให้แก่ท่านอื่นๆอีกด้วยครับ
ผมจะพยายามอัพเดตเรื่อยๆถ้ามีเวลา ยังไงถ้าใครมาเยี่ยมเยียนบล็อคนี่ สามารถแนะนำได้นะครับ^^
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)